CraftsinCulture

Have you ever wondered if the old city walls we see in many provinces could serve purposes beyond being tourist attractions? เคยสงสัยไหมว่า กำแพงเมืองเก่าที่เราเห็นในหลายๆ จังหวัด นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว จะสามารถใช้ประโยชน์อะไรได้อีกบ้าง?

When thinking of Nan province, many might picture ancient temples, complex mountain ranges, and valuable Lanna culture. But did you know that in the nooks of this small city,เมื่อพูดถึงจังหวัดน่าน หลายคนอาจนึกถึงภาพวัดวาอารามเก่าแก่ ทิวเขาสลับซับซ้อน และวัฒนธรรมล้านนาอันทรงคุณค่า แต่รู้หรือไม่ว่า ในซอกหลืบของเมืองเล็กๆ แห่งนี้

ในยุคที่ภูมิปัญญาท้องถิ่นกำลังเลือนหายไปตามกาลเวลา วัดแสงดาว ตำบลฝายแก้ว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ได้ก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางในการอนุรักษ์และสืบสานงานช่างพุทธศิลป์อันล้ำค่าของเมืองน่าน ผ่านการจัดตั้ง "ศูนย์การเรียนรู้พุทธศิลป์วัดแสงดาว" In an era where local wisdom is fading with time, Saeng Dao Temple in Fai Kaeo Subdistrict, Phu Phiang District, Nan Province, has emerged as a center for preserving and passing on the valuable Buddhist artistic craftsmanship of Nan.

In a world spinning at the speed of technology, there are still small communities holding fast to their roots and traditional wisdom. Ban Sao Luang in Bo Suak sub-district, ในโลกที่หมุนไปด้วยความเร็วของเทคโนโลยี ยังมีชุมชนเล็กๆ หลายแห่ง ที่ยึดมั่นในรากเหง้าและภูมิปัญญาดั้งเดิม บ้านซาวหลวง ตำบลบ่อสวก อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน

Who would have thought that a red and black fabric once used in sacred rituals could become a must-have item for fashionistas? ใครจะคิดว่าลายผ้าสีแดงดำที่เคยใช้ในพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ จะกลายมาเป็นไอเท็มสุดฮิตติดกระเป๋าเหล่าแฟชั่นนิสต้าได้?

"Le ma seu nyok kong Mlabri" or "Please come buy Mlabri bagsCome and buy Mlabri bags!" The clear voice of a young Mlabri child echoes through the valley "เลอ มา ซือ ญอก คอง มละ เซิม" หรือ "เชิญมาอุดหนุนย่ามของมละบรินะ" เสียงใสๆ ของเด็กน้อยชาวมละบริก้องกังวานอยู่ในหุบเขา

In the land embraced by mountains and flowing rivers, the province of 'Nan' is beloved by travelers who are captivated by the charm of Lanna. ณ ดินแดนที่ขุนเขาโอบล้อม สายน้ำไหลริน จังหวัด 'น่าน' อันเป็นที่รักใคร่ของนักเดินทางผู้หลงใหลในมนตร์เสน่ห์แห่งล้านนา

Natural Tie-Dye (Cold Dyeing) with Local Herbs in Bo Suak, an ancient village in Nan province, is captivating nature-loving tourists and those seeking unique experiences. ณ ชุมชนบ่อสวก แหล่งชุมชนอันเก่าแก่ในจังหวัดน่าน กิจกรรม "ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ (ย้อมเย็น) ด้วยสมุนไพรท้องถิ่น" กำลังดึงดูดนักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติและใฝ่หาประสบการณ์แปลกใหม่

Amidst the tranquil waters of the Nan River, a precious creation has emerged from the hands of local artisans and wisdom bearers in Nan Province. The "Nong Ruea Nan Cup," a ceramic product featuring the Nan identity boat design. ท่ามกลางสายน้ำน่านอันเงียบสงบ เกิดสรรค์ผลงานอันล้ำค่าจากฝีมือศิลปินท้องถิ่นและครูภูมิปัญญาในจังหวัดน่าน "ถ้วยน้องเรือน่าน"

Nestled amidst the serene mountains and rivers of Nan Province, a new driving force has emerged. Like a refreshing breeze, "Sla Kud" ท่ามกลางขุนเขาและสายน้ำอันเงียบสงบของจังหวัดน่าน เกิดพลังขับเคลื่อนเคลื่อนลูกใหม่ เปรียบเสมือนสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงพัดพา "สล่ากึ๊ด"

Nestled in the heart of Nan city, on Suman Thevarat Road Soi 2, stands Hong Chao Fong Kham, a two-hundred-year-old wooden house. This architectural gem of Lanna is a treasure trove waiting to be discovered, reflecting the way of life, wisdom, and culture of Lanna that has been passed down to the present day.ณ ใจกลางเมืองน่าน บนถนนสุมนเทวราช ซอย 2 เป็นที่ตั้งของ "โฮงเจ้าฟองคำ" บ้านไม้โบราณอายุกว่าสองร้อยปี สถาปัตยกรรมล้านนาอันงดงาม เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ล้ำค่าที่รอการค้นพบ สะท้อนวิถีชีวิต ภูมิปัญญา และวัฒนธรรมล้านนาที่ยังคงสืบทอดต่อมาจนถึงปัจจุบัน

In the heart of Nan Province, a land of mountains and rivers, lies Phumin temple. Built under the reign of the powerful Prince Anantaworaritdet, the temple is a testament to the grandeur of the past. Its magnificent murals tell stories of life, culture, and beliefs from a bygone era.ณ ใจกลางนครน่าน ดินแดนที่รายล้อมด้วยขุนเขาและสายน้ำ ภายใต้รัชสมัยของเจ้าอนันตวรฤทธิเดช ผู้ทรงอำนาจ เสียงแห่งการบูรณะครั้งยิ่งใหญ่ดังก้องกังวาน สะท้อนผ่านจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรตระการตา ณ วัดภูมินทร์ เรื่องราวจากอดีตถูกถ่ายทอดผ่านปลายพู่กัน บอกเล่าวิถีชีวิต วัฒนธรรม และความเชื่อของผู้คนในยุคนั้น

Standing tall above the city, Nan Identity Hall is a symbol of the rich history and traditions of Nan Province. More than just a museum, it is a vibrant learning space that blends Lanna and modern architecture, inviting visitors of all ages to explore the history, culture, and way of life of Nan.หออัตลักษณ์นครน่าน ยืนตระหง่านเหนือเมือง เป็นเสมือนสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงเรื่องราวและประเพณีอันยาวนานของเมืองน่าน ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงพิพิธภัณฑ์เก็บของเก่า แต่เป็นพื้นที่การเรียนรู้อันมีชีวิตชีวา ออกแบบโดยผสมผสานสถาปัตยกรรมล้านนาและสมัยใหม่เข้าด้วยกัน ดึงดูดผู้มาเยือนทุกวัยให้เข้ามาสัมผัสประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของเมืองน่าน

Where the enchanting melodies of Saw, a traditional singing style from Nan province, intertwine with the lively rhythms of Choi and E-saew music from Suphanburi's rich cultural heritage.จากขุนเขาสู่ทุ่งรวงทอง เสียงดนตรีพื้นบ้านสองวัฒนธรรม ผสมผสานเป็นหนึ่ง บทเพลงแห่งมิตรภาพและการแลกเปลี่ยน เรื่องราวที่รอให้คุณสัมผัส ในงานประชุมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของประเทศไทย (TCCN) ที่จะจัดขึ้น

In the land of Chiang Rai, surrounded by soaring mountains and crystal-clear rivers, the melodies of local wisdom (Chiang Rai Creative City) resound, blending with the cool breeze, creating a warm and joyful atmosphere. ณ จังหวัดเชียงราย ดินแดนที่รายล้อมไปด้วยขุนเขาสูงเสียดฟ้าและสายน้ำใสสะอาด เสียงเพลงแห่งภูมิปัญญาดังก้องกังวาน ผสมผสานกับสายลมเย็นสบาย สร้างบรรยากาศอบอุ่นและเปี่ยมไปด้วยความรื่นรมย์

At Khwang Wiang Sa (Wiang Sa Square), Wiang Sa District, Nan Province, the atmosphere was lively, full of colors and music from the "Nan Fest" event, a festival that combines art, culture, food and music under the shade of Wat Bunyuen Phra Aram Luang, a sacred place of Wiang Sa District, Nan Province. วันที่ 1-3 มีนาคม 2567 ณ ข่วงเวียงสา อ.เวียงสา จ.น่าน บรรยากาศคึกคัก เต็มไปด้วยสีสันและเสียงดนตรี จากงาน "เทศกาลน่าน หรือ Nan Fest เทศกาลที่รวมเอาศิลปะ วัฒนธรรม อาหาร และดนตรี มาไว้ด้วยกัน ภายใต้ร่มเงาของวัดบุญยืนพระอารามหลวง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ของชาวอำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน

เมื่อวันที่ 17 – 18 กุมภาพันธ์ 2567 อพท.น่าน ร่วมมือกับสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกสุโขทัย จัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านงานหัตถกรรม ให้กับ กลุ่มจักสาน (บ้านหลักลาย อำเภอปัว จังหวัดน่าน)

การประชุมเตรียมการเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2566 ณ ห้องประชุม เจ้าอนันตวรฤทธิเดช ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดน่าน เพื่อนำเสนอข้อมูลที่สำคัญต่อคณะกรรมการคัดเลือกเมืองต่างๆ เพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์อันทรงเกียรติของ UNESCO ในปี 2566

การใช้ประโยชน์จากต้นไม้ประจำจังหวัด โดยการนำมาให้สีแก่ผ้าทอเมืองน่าน นอกจากจะเห็นความงดงามของสีธรรมชาติแล้ว

นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นำคณะภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าพบปะเพื่อหารือกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อหารือศึกษาแนวทางการพัฒนาพื้นที่สู่การเป็น สมาชิกเครือข่ายสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก

นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านนำคณะทำงานขับเคลื่อนจังหวัดน่านสู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายองค์การยูเนสโก พบปะหารือ นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี และคณะ ณ โรงแรม Royal Diamond อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี

รับสมัคร "สล่าศิลป์" และผู้ที่สนใจ เข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อต่อยอดการออกแบบงานปูนปั้นพุทธศิลป์สร้างสรรค์ สู่การออกแบบผลิตภัณฑ์

จังหวัดน่าน ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย มีลักษณะเฉพาะหลายประการที่ทำให้จังหวัดน่านมีศักยภาพในการเข้าร่วมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์

ศูนย์พุทธศิลป์วัดแสงดาว ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอภูเพียง ฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองน่าน

Doi Silver Museum พิพิธภัณฑ์เครื่องเงินชาวเขาในหุบเขาเมืองปัว เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมชาวเขาผ่านเครื่องประดับเงินที่ชาวเขาเผ่าเย้าใช้ในชีวิตประจำวันที่พิพิธภัณฑ์เล็กๆ ในจังหวัดน่าน

ผ้าปักเมี่ยนเป็นศิลปะสิ่งทอแบบดั้งเดิมที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงในประเทศไทยในด้านความสวยงามและงานฝีมือ

เครื่องเงินเมี่ยนมักทำจากเงินคุณภาพสูงและมีลวดลายและการออกแบบที่ละเอียดอ่อน มักผสมผสานองค์ประกอบจากธรรมชาติ

'การทอผ้า' ภูมิปัญญาท้องถิ่นงานอดิเรกยามว่างจากการเกษตรของชาวบ้านซาวหลวง ตำบลบ่อสวก

สำหรับ "ปีกระต่าย" หมายถึงปีในปฏิทินจันทรคติจีนซึ่งเกี่ยวข้องกับราศี กระต่าย ปีนี้เชื่อกันว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความสงบ ความเงียบสงบ และความคิดสร้างสรรค์ เนื่องจากกระต่ายเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติเหล่านี้  ปฏิทินจันทรคติของจีนมีรอบ 12 ปี โดยแต่ละปีจะมีสัญลักษณ์รูปสัตว์แทน  "ปีเถาะ" จะเกิดขึ้นทุกๆ 12 ปีโดยประมาณ

เมืองสร้างสรรค์สำหรับเยาวชนคือเมืองที่ให้คุณค่า สนับสนุน และส่งเสริมพลเมืองรุ่นใหม่ให้มีความกระตือรือร้น สร้างสรรค์ และมีส่วนร่วมกับสมาชิกในชุมชน

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้