การประชุมเตรียมการเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2566 ณ ห้องประชุม เจ้าอนันตวรฤทธิเดช ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดน่าน เพื่อนำเสนอข้อมูลที่สำคัญต่อคณะกรรมการคัดเลือกเมืองต่างๆ เพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์อันทรงเกียรติของ UNESCO ในปี 2566
การใช้ประโยชน์จากต้นไม้ประจำจังหวัด โดยการนำมาให้สีแก่ผ้าทอเมืองน่าน นอกจากจะเห็นความงดงามของสีธรรมชาติแล้ว
นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นำคณะภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าพบปะเพื่อหารือกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อหารือศึกษาแนวทางการพัฒนาพื้นที่สู่การเป็น สมาชิกเครือข่ายสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก
นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านนำคณะทำงานขับเคลื่อนจังหวัดน่านสู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายองค์การยูเนสโก พบปะหารือ นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี และคณะ ณ โรงแรม Royal Diamond อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี
จังหวัดน่าน ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย มีลักษณะเฉพาะหลายประการที่ทำให้จังหวัดน่านมีศักยภาพในการเข้าร่วมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์
ในอดีตที่มนุษย์ดำรงอยู่ได้ด้วยการเพาะปลูก คนเราเมื่ออยู่ที่ไหนก็จะผูกพันกับสายน้ำของที่นั่น เช่นเดียวกับคนน่านที่ยังผูกพันกับลำน้ำน่านอย่างเหนียวแน่น ในฐานะที่มันเป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงเมืองทั้งเมือง
'การทอผ้า' ภูมิปัญญาท้องถิ่นงานอดิเรกยามว่างจากการเกษตรของชาวบ้านซาวหลวง ตำบลบ่อสวก
เครื่องเงินเมืองน่าน: นอกจากเงินเมืองน่านที่ใช้เป็นเงินตราในการแลกเปลี่ยน เช่น เงินนาน หรือ เงินเจียง เงินราง และเงินท็อกเมืองน่าน ฯลฯ
ด้วยภูมิประเทศที่เป็นภูเขามีลำห้วยต้ามไหลผ่าน บ้านต้ามจึงอุดมด้วยป่าไม้ไผ่ เกิดเป็นมรดกภูมิปัญญาจักสานที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
ผ้าตาโก้ง ผ้าที่ถูกส่งต่อผ่านรุ่นสู่รุ่นด้วยลวดลายในเนื้อผ้าสะท้อนผ่านวิถีชีวิตชุมชนเพราะทุกครั้งที่ชาวนาซาวทอผ้าตาโก้งจะมีความรู้สึกว่าปู่ย่าตายาย
โคมมะเต้า (โคมหม่าเต้า) มรดกทางวัฒนธรรมของชาวน่าน ทำขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและเสริมสิริมงคล ปัจจุบันได้นำโคมมาใช้หลายอย่าง
เครื่องปั้นดินเผา เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ที่มีความสัมพันธ์ เกี่ยวเนื่องกับวิถีชีวิตชาวล้านนามาอย่างแนบแน่นเป็นเวลา