59 จำนวนผู้เข้าชม |
วันที่ 11 กันยายน 2568 คณะผู้แทนเมืองน่านนำโดย นางวิไลวรรณ บุดาสา รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นำ คณะจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน พร้อมด้วย ดร.ชุมพล มุสิกานนท์ รองผู้อำนวยการ อพท. และพันเอก นาวิน ปรีชาพณิชยกุล ดร.พิมลพรรณ สกิดรัมย์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชน ผู้ประสานงานหลัก ของจังหวัดน่าน และคณะทำงานขับเคลื่อนเมืองน่านสู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ เดินทางเข้าศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการออกแบบ ณ ศูนย์ออกแบบและสร้างสรรค์โกเบ (KIITO) ประเทศญี่ปุ่น การเยือนครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเรียนรู้จากเมืองต้นแบบด้านการออกแบบของเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ยูเนสโก (UCCN) และนำบทเรียนมาประยุกต์ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติที่จับต้องได้สำหรับการพัฒนาเมืองน่าน
โกเบในฐานะสมาชิก UCCN สาขา Design ตั้งแต่ปี 2008 ใช้ KIITO เป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนเมืองผ่าน “พลังของดีไซน์” อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่งานเทศกาลและกิจกรรมศิลปะ–วัฒนธรรม ไปจนถึงการบ่มเพาะแนวคิดออกแบบเชิงบริการภาครัฐและการพัฒนาเยาวชน ตัวอย่างที่โดดเด่นคือเวิร์กช็อป “Chibikkobe” ที่เปิดพื้นที่ให้เด็กและครีเอเตอร์ร่วมออกแบบเมืองจริง ๆ สะท้อนบทบาท “ดีไซน์เพื่อสาธารณะ” ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเมืองน่านในด้านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ และกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนได้ทันที
หนึ่งในบทเรียนสำคัญคือการ “ปรับใช้มรดกอุตสาหกรรมให้เป็นศูนย์สร้างสรรค์ร่วมสมัย” โดยอาคารเดิมของศูนย์ตรวจสอบเส้นไหมดิบโกเบ (ก่อสร้างราว พ.ศ. 2470–2475) ได้รับการบูรณะเป็นฮับความคิดสร้างสรรค์ พื้นที่แลกเปลี่ยน และศูนย์รวมกิจกรรม โดยยังคงคุณค่าทางสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ไว้ครบถ้วน แนวทาง adaptive reuse เช่นนี้เป็นโจทย์เชิงนโยบายที่น่านสามารถนำไปต่อยอดได้จริง อาทิ การชุบชีวิตอาคารเก่าให้เป็น “ศูนย์ดีไซน์–คราฟต์–ชุมชน” ที่ทำหน้าที่ทั้งรักษามรดกและสร้างมูลค่าเศรษฐกิจใหม่ในเวลาเดียวกัน
KIITO ยังแสดงให้เห็นระบบนิเวศของสถานที่ที่พร้อม “เรียน–ทำ–จัด–แสดง–เชื่อมงาน” อยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน ตั้งแต่ฮอลล์นิทรรศการ แกลเลอรี พื้นที่อบรม พื้นที่ออฟฟิศให้เช่า ครีเอทีฟเลานจ์ ไปจนถึงคาเฟ่ โครงสร้างนี้รองรับได้ทั้งกิจกรรมทดลอง อีเวนต์นานาชาติ และการบ่มเพาะผู้ประกอบการสร้างสรรค์ เกิดเป็น “บ้านของคนสร้างสรรค์” ที่มีทั้งพื้นที่ผลิตความรู้ พื้นที่โชว์ และพื้นที่ตลาดที่หมุนเวียนรายได้จริง เมืองน่านจึงสามารถยกโมเดลนี้ไปออกแบบศูนย์หัตถกรรมของตนเองให้พร้อมใช้งานได้จริง
ในระดับนโยบาย โกเบให้ภาพชัดว่าเมืองสร้างสรรค์ไม่ได้ “จัดกิจกรรม” เพียงอย่างเดียว แต่สร้างกลไกเครือข่าย การมีส่วนร่วม และการวัดผลในกระบวนการที่สามารถขับเคลื่อนได้จริง เชื่อมคนทำงานสร้างสรรค์ทุกกลุ่มและหลากสาขาให้ร่วมแก้ปัญหาเมืองด้วยดีไซน์ มีวาระต่อเนื่อง เช่น การต่อยอดภูเขา Rokko เป็นพื้นที่ธุรกิจสร้างสรรค์ พร้อมกรอบตัวชี้วัดที่มองเห็นการมีส่วนร่วมของเยาวชนและผู้หญิง การเติบโตของผู้ประกอบการ และคุณภาพพื้นที่สาธารณะ บทเรียนเชิงระบบเหล่านี้ช่วยให้น่านกำหนดกลยุทธ์ การสื่อสารระดับภูมิภาค และการเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ ได้อย่างเป็นขั้นตอน
การไปดูงานที่ศูนย์ออกแบบและสร้างสรรค์โกเบทำให้น่านได้ “คู่มือการออกแบบเมือง” สำหรับเมืองสร้างสรรค์ในมิติ นโยบายเมืองเชิงดีไซน์ การใช้พื้นที่แบบ adaptive reuse ควบคู่โครงสร้างกิจกรรม ผู้คนและกระบวนการมีส่วนร่วมที่เน้นเยาวชน–ครีเอเตอร์–ภาครัฐ ตลอดจนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ขับเคลื่อนด้วยอีเวนต์ การใช้พื้นที่เชิงพาณิชย์ และการบ่มเพาะธุรกิจ เมื่อนำกลับมาประยุกต์ใช้ เมืองน่านจะต้องมีกลไกมีส่วนร่วมของชุมชนที่เข้มแข็งขึ้น และระบบวัดผลที่สอดคล้องมาตรฐาน UCCN เพื่อขับเคลื่อนสู่ “เมืองสร้างสรรค์” ที่จับต้องได้และยั่งยืนในบริบทของตนเองต่อไป